เมษายน 20, 2024

เมืองฉะดอทคอม>MUANGCHA.COM

โน่นนิดนี่หน่อยค่อยเป็นค่อยไป

ร่วมทุกข์ ร่วมสุข

เมิ่ง จื่อ ทราบว่า ฉี ซวน อ๋อง โปรดการฟังดนตีร จึงถาม ฉี ซวน อ๋อง ว่า การฟังดนตรีคนเดียว กับ การฟังดนตรีร่วมกับผู้อื่น อย่างไหนจะมีความสุขมากกว่า ?

ฉี ซวน อ๋อง ตอบว่า การฟังดนตรีร่วมกับผู้อื่นมีความสุขมากกว่า เมิ่ง จื่อ ถามว่า การฟังดนตรีร่วมกับคนส่วนน้อย กับคนส่วนมาก อย่างไหนย่อมจะมีความสุขมากกว่า ฉี ซวน อ๋อง เลยตอบไปว่า การฟังดนตรีร่วมกับคนส่วนใหญ่มีความสุขมากกว่า

เมิ่ง จื่อ เลยกล่าวว่า งั้นข้าพเจ้าขอกล่าวถึงเรื่องดนตรีสักเล็กน้อย สมมติว่าท่านอ๋องกำลังฟังดนตรีอยู่ ณ ที่นี้ ประชาชนได้ยินเสียงกังสดาลเสียงกลอง ได้ยินเสียงปี่ เสียงขลุ่ย พลันหน้านิ่วคิ้วขมวดเเละปรับทุกข์ต่อกันว่า “ท่านอ๋องชอบฟังดนตรี เเต่ไฉนปล่อยพวกเราให้ทุกข์ยากลำเค็ญถึงเพียงนี้ ? พ่อลูกไม่ได้พบหน้ากัน พี่น้องลูกเมียต้องพลัดพรากจากกัน” เเละสมมติว่าท่านอ๋องกำลังล่าสัตว์อยู่ ณ ที่นี้ ประชาชนได้ยินเสียงรถม้า ได้เห็นความสวยงามของธงทิว พลันหน้านิ่วคิ้วขมวด เเละปรับทุกข์ต่อกันว่า “ท่านอ๋องชอบล่าสัตว์ เเต่เหตุไฉนปล่อยให้พวกเราทุกข์ยากลำเค็ญถึงเพียงนี้ ? พ่อลูกไม่ได้พบหน้ากัน พี่น้องลูกเมียต้องพลัดพรากจากกัน”

สมมติว่า ท่านอ๋องกำลังฟังดนตรีอยู่ ณ ที่นี้ ประชาชาได้ยินเสียงปี่เสียงขลุ่ย พลันหน้าชื่อตาบานเเละบอกต่อๆกันว่า “ท่านอ๋องคงสุขสบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย มิฉะนั้นไฉนท่านจะมาเล่นดนตรีได้เล่า ?”  เเละสมมติว่า ท่านอ๋องล่าสัตว์อยู่ ณ ที่นี้ ประชาชนได้ยินเสียงรถม้า ได้เห็นความงามของธงทิว พลันหน้าชื่อตาบานเเละบอกต่อๆกันว่า “ท่านอ๋องคงสุขสบายดี ไม่เจ็บไม่ป่วย มิฉะนั้น ไฉนจะมาล่าสัตว์ได้เล่า การที่ประชาชนดีใจเช่นนั้น เป็นเพราะท่านอ๋องมีความสุขร่วมกับประชาชนเท่านั้นเอง หาใช่อะไรอื่นไม่

    “หากใครเหินห่างจากประชาชน ก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จความสุขที่เเท้จริงได้เช่นกัน”

ช่วง นี้ใน กทม.กำลังหน้าดำคร่ำเครียด เนื่องจากต้องเลือกตั้งผู้ว่า กทม. กัน ก็คงจะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ประชาชีชาว กทม. จะได้พบกับผู้ว่า.คนเก่า และผู้ท้าชิงชนิดแนบเนื้อกันทีเดียว อะไรที่ไม่เคยทำก็จะได้เห็นผู้มากอำนาจเหล่านี้ทำ และไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้ พวกเขาก็จะสาบสูญไป ผมคนบ้านนอกไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับชาว กทม. แต่ ได้เห็นตามสื่อบ้าง ก็ได้แค่คิดว่า ทำไปได้ คนพูดไม่เก่งก็กล้าที่จะพูดบางครั้งก็ดูเหมือนพล่าม คนที่เคยปากเก่ง ปากกล้า ไม่กลัวใคร ก็กลายเป็นนอบน้อมถ่อมตน ยกมือไหว้แหลก สิ่งที่ผมสงสัยมานาน ไม่ว่าเลือกผู้แทนอะไรก็ตาม ผมสงสัยในเนื้อนโยบาย ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย ก็แค่ว่า ทำไมตอนเป็น ตอนมีอำนาจไม่คิดไม่ทำ แต่พอเลือกตั้ง โอ้โฮ..เจ้าโปรเจคนิ

รู้สึกสงสารคน กทม. ช่วงนี้จัง คงเครียดน่าดูนิ