เมษายน 20, 2024

เมืองฉะดอทคอม>MUANGCHA.COM

โน่นนิดนี่หน่อยค่อยเป็นค่อยไป

ซื้อรองเท้า

มีชายคนหนึ่งคิดจะไปซื้อรองเท้าใหม่ เขาจึงเอาไม้ฉือ(ไม้ฟุตจีน)มาวัดเท้าตน แล้วเอาฟางเส้นหนึ่งมาทำขนาดไว้ หลังจากนั้นเขาก็รีบบึ่งไปที่ตลาดทันที เพื่อซื้อรองเท้า
เมื่อมาถึงร้านขายรองเท้าที่ตลาด เขาก็ล้วงลงไปที่กระเป๋าเพื่อที่จะหยิบฟางที่เขาวัดขนาดไว้ แต่หาเท่าไรก็ไม่พบ เขาจึงพูดกับคนขายว่า
“ข้าวัดขนาดเท้าไว้แล้วด้วยเส้นฟาง แต่ลืมนำมาจากบ้าน ก็เลยไม่รู้ว่าเท้านั้นมีขนาดเท่าไหร่ เดี๋ยวข้าพเจ้าจะรีบกลับบ้าน ไปเอาฟางที่วัดขนาดไว้มาซื้อรองเท้าของท่าน”
เขารีบตะบึงกลับบ้าน เพื่อที่จะกลับมาที่ตลาดอีกครั้งให้ทัน แต่เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล เขาจึงเสียเวลาไปมาก เมื่อกลับมาที่ตลาดอีกครั้ง ตลาดกับร้านรองเท้าก็ปิดไปแล้ว เป็นอันว่าเขาเสียเวลาไปหนึ่งวันโดยที่ไม่ได้อะไรเลย ใกล้กับร้านรองเท้าที่เขาตั้งใจมาซื้อ มีชายชราผู้หนึ่งนั่งอยู่ เห็นเขาเข้าก็เอ่ยถามว่า “ข้าเห็นเอ็งตั้งแต่กลางวันแล้ว เอ็งจะซื้อรองเท้าไปฝากใครรึ”
ชายคนนั้นตอบว่า “เปล่าหรอกท่านลุง ข้าจะซื้อใส่เอง” ชายชราได้ยินดังนั้นถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เมื่อหยุดหัวเราะเขาก็ส่ายหน้าแล้วพูดกับชายหนุ่มว่า
” ไอ้หนุ่ม เอ็งไม่ใช่คนพิการ เท้าเอ็งก็มีมิใช่รึ แล้วทำไมเอ็งต้องวุ่นวายใช้ฟางด้วยเล่า ทำไมเอ็งไม่ใช้เท้าลองรองเท้าดูว่าใส่ได้หรือไม่”

ก่อนที่จะพิมพ์มาถึงนิทานเรื่องนี้ เมื่อวานผมเจอเด็กสองคนมาหาที่รองโมเดล จะให้ผมทำให้ ผมก็บอกว่าทำไม่ได้หรอก เพราะแบบที่เอามาเนี่ย มันเป็นแบบสำเร็จรูป บริษัทเขาทำขายกัน ข้างมหาวิทยาลัยของหนูน่าจะมีขาย เด็กคนหนึ่งบอกผมว่า ใช่ลุงอันนี้อาจารย์เขาซื้อมา แต่จำไม่ได้ว่าซื้อมาจากไหน เพราะด้านข้างมียี่ห้ออยู่ ผมเห็นยี่ห้อแล้วบอกกับแกว่า ไม่ต้องมาหาที่นี่หรอก ถ้าไม่เข้ากรุงเทพก็ต้องเป็นแถวมหาวิทยาลัยของเอ็งมีขายแน่นอน เด็กอีกคนก็ทำท่าหมดหวัง แล้วพูดว่า แล้วจะไปหาซื้อที่ไหน ผมบอกกับแกว่า เอาอย่างนี้โทรศัพท์ที่เอ็งใช้นะมันเล่นเนตได้ชัวร์ ทำไมเอ็งไม่ลองพิมพ์ยี่ห้อหาดูในGOOGLE ละ มันต้องเจออยู่แล้ว แล้วเอ็งก็เลือกร้านที่ใกล้ที่สุดไปซื้อซะ
เด็กสองคนยกมือไหว้ท่วมหัวขอบคุณผม แถมยังทิ้งท้ายว่า “จริงด้วย ลุงคิดได้ยังไงเนี่ย”
ผมเองก็งงกับเด็กสมัยนี้ สมัยที่เทคโนโลยีรอบตัว สมัยที่จะอยู่ตรงไหน อยากรู้อะไร ก็แค่พิมพ์แล้วค้นในเนต ไม่ถึงสามสิบวินาทีก็ได้ข้อมูลมากมาย ผมงงกับวิธีการที่พวกเขาเลือกที่จะถามแทนการค้นหาด้วยเทคโนโลยีของพวกเขา มันก็เลยพาลให้คิดว่า เด็กต่อไปเขาจะช่วยเหลือตัวเองได้ไหมเวลาเจอปัญหา เขาจะมีวิธีการคิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ไหม ผมคิดได้แค่นี้ก็ต้องหยุดคิดทันที ไม่อยากจะคิดต่อไป ผมว่ามันน่ากลัวเกินไป